คลินิกความงาม กับเรื่องของผิวเป็นของคู่กัน โดยเฉพาะผิวที่มีปัญหา และทั้งหมดจะถูกแก้ไขจากเรื่องยากให้กลายเป็นเรื่องง่าย จากหน้าสิวให้กลายเป็นหน้าสวย ได้ที่คลินิกนั่นเอง เมื่อพูดถึงเรื่องของปัญหาผิวต้องบอกว่า ผู้หญิงทุกช่วงวัย มักจะมีปัญหาผิวที่แตกต่างกัน ย่างเข้าสู่วัยรุ่นมักเจอกับปัญหาสิวเป็นด่านแรก และเมื่อเข้าสู่วัยทำงาน ก็พบกับสารพัดปัญหา ที่มักจะมาช่วงหลังอายุ 22 ปีหรือ 23 ปีเป็นต้นไป ไม่ว่าจะเป็นปัญหาผิวขาดคอลลาเจน ไม่กระชับเต่งตึงเหมือนเดิม ริ้วรอยร่องลึกต่างๆ และอีกมากมาย มาเป็นปัญหาด่านที่ 2 และ 3 ตามลำดับ ซึ่งแน่นอนว่าเราทุกคนล้วนเคยผ่านปัญหาผิวเหล่านี้มาแล้วทั้งนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องสิวๆ ที่ทำให้กลุ้มหนัก และวันนี้ใครที่กำลังประสบกับปัญหาสิว ที่อยากจะแก้ไขไม่ต้องเป็นกังวลใจไป เพราะเรามีเคล็ดลับดีๆ ในการดูแลผิวแบบง่ายๆ ได้ผลรวดเร็วและถาวร มาฝากกันอีกเช่นเคย ผ่านเรื่องราวเหล่านี้
Topic
- สิว แต่ละประเภท และแบบไหนที่พบได้บ่อยที่สุด แบบไหนรักษายากที่สุด
- สรุปสาเหตุการเกิดสิว
- แนวทางการรักษาสิวอย่างได้ผล
สิว แต่ละประเภท และแบบไหนที่พบได้บ่อยที่สุด แบบไหนรักษายากที่สุด
ปัญหาสิว อาจจะฟังดูเหมือนเป็นปัญหาเล็กน้อย แต่เมื่อปัญหานี้เกิดขึ้นกับใครแล้ว มันกลับกลายเป็นปัญหาใหญ่ของเจ้าตัว เพราะมันทำให้ขาดความมั่นใจในตัวเอง ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ คลินิกความงาม จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วน แต่ก่อนที่จะตัดสินใจใช้บริการที่ เราไปทำความรู้จักกับสิวแต่ละประเภท กันก่อนเลย
- สิวอุดตัน แบ่งออกเป็น 2 ประเภท
- สิวอุดตันหัวเปิด หรือสิวหัวดำ ลักษณะเป็นจุดสีดำ เห็นได้อย่างชัดเจน สาเหตุ เกิดจากการอุดตันของเนื้อเยื่อไขมันภายในรูขุมขน
- สิวอุดตันหัวปิด หรือสิวหัวขาว ลักษณะเป็นตุ่มเล็กๆ สีขาว สาเหตุเกิดจากเชื้อแบคทีเรียอุดตันในรูขุมขน ก่อให้เกิดการอุดตันบนผิวหนัง
- สิวอักเสบ
เป็นสิวที่พัฒนาตัวมาจากสิวอุดตัน เมื่อเป็นจะมีอาการเจ็บและบวมแดง หากรุนแรงมากจะทำให้คอลลาเจนใต้ผิวถูกทำลายจนเกิดเป็นผังผืด หากไม่ทำการรักษาจะกลายเป็นหลุมสิวในที่สุด เป็นสิวประเภทที่รักษายากที่สุด
- สิวตุ่มนูนแดง
คือสิวอักเสบในระยะแรก ความรุนแรงไม่มาก
- สิวหัวหนอง
จะมีลักษณะเป็นตุ่มแดง บนหัวสิวจะมีหนองสีเหลืองที่เห็นได้อย่างชัดเจน ความรุนแรงไม่มาก
- สิวซิส
คือสิวที่มีการอักเสบและเป็นก้อนซึ่งในก้อนนั้นจะมีของเหลว
- สิวอักเสบหัวแข็ง
ลักษณะของสิวประเภทนี้จะมีความเป็นถุงและเป็นไตแข็งๆอยู่ใต้ผิวหนัง เมื่อสัมผัสจะรู้สึก
- สิวฮอร์โมน
คือสิวที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในช่วงวัยต่างๆ ไม่ใช่เพียงแค่วัยรุ่นเท่านั้น ขาดแต่ในช่วงวัยหนุ่มสาวรวมไปถึงช่วงการมีรอบเดือน การตั้งครรภ์ รวมไปถึงผู้หญิงวัยทอง ก็จะมีสิวประเภทนี้ปรากฏขึ้นได้โดยจะมีลักษณะเป็นผดเล็กๆ หัวดำหรือหัวขาวก็ได้
และนี่คือทั้งหมดของประเภทสิวที่พบได้บ่อยที่สุด ซึ่งแต่ละประเภท ก็จะมีแนวทางในการรักษาที่แตกต่างกันออกไป โดย คลินิกความงาม ที่ได้คุณภาพมาตรฐาน และมีแพทย์เฉพาะทางโรคผิวหนังคอยดูแล ก็จะสามารถจัดการกับปัญหาสิวเหล่านี้ได้อยู่หมัด
สรุปสาเหตุการเกิดสิว
สาเหตุการเกิดสิว มักจะมีหลายสาเหตุ แต่โดยหลักแล้วไม่ว่าจะเป็นปัญหาสิวประเภทใดก็ตาม มักจะเกิดขึ้นจากโครงสร้างของผิวเป็นหลัก โดยโครงสร้างของผิวนั้นจะประกอบไปด้วยขน รากขน และต่อมน้ำมัน รวมถึงกล้ามเนื้อเรียบเล็กๆ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นองค์ประกอบสำคัญของการเกิดสิวนั่นเอง อย่างไรนั้นไปดูกันเลย
- ขน (Hair)
บนผิวเราจะมีรูขุมขนเล็กๆ แต่ละรูขุมขนอาจจะมีเส้นขนขนาดไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับแต่ละตำแหน่ง
- รากขน (Hair Root)
รากขนหรือต่อมรากขน คือส่วนที่ทำหน้าที่ผลิตเส้นขนออกมา ดังนั้นแล้วรากขนจะอยู่ที่ส่วนมากสุดของโครงสร้างรูขุมขนทั้งหมด
- ต่อมน้ำมัน (Sebaceous Glands)
ต่อมน้ำมันจะทำหน้าที่ซับน้ำมันหรือที่เราเรียกว่า ซีบัม (Sebum) เพื่อให้น้ำมันนั้นออกมาเคลือบผิวและทำให้เส้นขนชุ่มชื้น
- กล้ามเนื้อเรียบเล็กๆ
เมื่อเราสัมผัสกับอากาศหนาวหรือตื่นเต้นตกใจ มักจะพบได้ว่าเราจะมีอาการขนลุก และนั่นคือการทำงานของกล้ามเนื้อเรียบ เล็กๆ เหล่านั้น นั่นเอง
เมื่อเราทราบหน้าที่การทำงานและองค์ประกอบของแต่ละจุดบนผิวแล้ว ทำให้ทราบได้ว่าสาเหตุของการเกิดสิวนั้นเกิดจากความผิดปกติของรูขุมขนซึ่งทั้งหมดเกิดจากปัจจัยของทั้ง 3 องค์ประกอบรวมกัน นั่นก็คือ ต่อมน้ำมัน ซึ่งขับน้ำมันออกมามากเกินไป บริเวณรูขุมขนที่มีการอุดตัน ไม่ว่าจะอุดตันจากการแบ่งตัวของเซลล์ผิว หรือการอุดตันของสิ่งสกปรกจากภายนอก และส่วนที่ 3 คือแบคทีเรีย ซึ่งจะเพิ่มจำนวนในบริเวณที่เกิดการอุดตันขึ้น จนทำให้เกิดการอักเสบและบวมแดงเป็นหนองเกิดขึ้น กลายเป็นสิวแต่ละประเภทนั่นเอง
แนวทางการรักษาสิวอย่างได้ผล
เทคโนโลยีการรักษาสิวอย่างได้ผล จากคลินิกความงาม มักจะมีหลายวิธีด้วยกันเพื่อให้สามารถแก้ปัญหาสิวแต่ละประเภทได้อย่างหมดจด ดังนี้
- การใช้กรด AHA
การใช้กรด AHA ซึ่งเป็นกรดผลไม้ เมื่อแต้มกรดผลไม้เหล่านี้ลงไปบนผิวจะรู้สึกแสบๆคันๆ แต่รับรองได้เลยว่าเป็นกรดที่อ่อนโยนต่อผิว แถมยังมีประสิทธิภาพในการช่วยลดการอุดตันของสิวและรักษารอยสิวได้ดี ทำให้กดสิวได้ง่ายขึ้น
- การการอบโอโซน
สำหรับการอบโอโซน เป็นวิธีที่มักจะนำมาใช้เพื่อเปิดรูขุมขนชั่วคราว นอกจากจะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวแล้ว ยังทำให้ง่ายต่อการกดสิวอีกเช่นกัน
- การใช้คลื่นความถี่สูง
สำหรับการแก้ปัญหาสิวอักเสบ คลินิกความงาม จะเลือกใช้คลื่นประจุความถี่สูง เพื่อช่วยลดอาการอักเสบของสิวซึ่งเห็นผลได้อย่างรวดเร็ว โดยคลื่นประจุความถี่สูงจะทำหน้าที่ฆ่าเชื้อสิว ทำให้สิวแห้งและหายบวมได้อย่างรวดเร็วทันใจ
- การฉายแสง LED photo toraphy
สำหรับเทคโนโลยีนี้เป็นการใช้แสงสีน้ำเงิน โดยจะมีความยาวคลื่น 415 นาโนเมตร มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่รูขุมขนชั้นตื้นได้ดี ร่วมกับการฉายแสงสีแดงความยาวคลื่น 633 นาโนเมตร ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียในรูขุมขนชั้นลึกและลดการอักเสบของสิว นอกจากนี้แล้ววิธีนี้ยังช่วยทำให้ฟื้นฟูสภาพผิวให้แข็งแรงขึ้นได้อย่างรวดเร็ว
- ฉีดสิว
การฉีดสิวยังคงเป็นวิธีดั้งเดิมแต่ได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน เพื่อทำให้สิวยุบลงในทันทีหลังจากที่ฉีดเพียงไม่กี่ชั่วโมง โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
นอกจากนี้แล้วคลินิกความงาม ยังมียาต่างๆที่จะช่วยในการรักษาสิวและแก้ปัญหาสิวแต่ละประเภทได้อย่างตรง ดังนั้นแล้วการเดินเข้าไปขอความช่วยเหลือจากคลินิก ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีมากกว่าการกดสิวด้วยตัวเอง ซึ่งนอกจากจะไม่หายแล้ว อาจจะทำให้ลุกลามหนักกว่าเดิม จากปัญหาเล็กกลายเป็นปัญหาใหญ่ ดังนั้นแล้วแก้ปัญหาสิวแก้ปัญหาผิว ควรเลือกใช้บริการคลินิกที่มีคุณภาพด้านมาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยของผิวเราในระยะยาว
ฉีดฟิลเลอร์ | ฉีดโบท็อกซ์ที่ไหนดี | รีวิวโบท็อกซ์ |